All Are Equal Before God
#184DaysOfWitchcraft Day 6
***Trigger Warning มีการบ่น-ก่นด่า และ Call Out***
***ถึงผู้อ่านที่รักทุกท่าน อ่านแล้วชอบตรงไหน โปรดเก็บไว้ใช้ ไม่ชอบตรงไหน โปรดตัดทิ้งหรือเอาไปดัดแปลง แต่ถ้าอ่านแล้วไม่ชอบเลย โปรดกดปิด ขอบคุณที่หลงเข้ามาเจอกันนะครับ ขอให้โชคดีบนทางที่ทุกท่านเลือก***
***หมอสองเขียนแบบไม่มีการวางโครงเรื่อง ไม่มีการแก้อะไรทั้งสิ้น ปล่อยให้มือทั้งสองพิมพ์ไปโดยเสรี ขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยครับ***
***โปรดท่องไว้ให้ขึ้นใจว่า Nobody knows shit. ไม่มีใครรู้ (แม่ง) จริง ๆ หรอก แม้แต่หมอสองก็ไม่รู้จริง และบ้งในหลาย ๆ ครั้ง ดังนั้นเชื่อตัวคุณเองเป็นอันดับหนึ่งเสมอนะครับ THERE IS NO GURU. YOU ARE YOUR OWN GURU.***
มาถึงวันนี้ ผมว่าผมคงไม่ต้องบอกแล้วนะว่าผมมีมุมมองทางการเมืองแบบไหน แต่ถ้าใครเพิ่งผ่านมารู้จักกัน หมอสองขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าผมเป็นชาวก้าวไกล/อนาคตใหม่ และสำหรับเรื่องการลงถนน ผมเชื่อว่าทุกสิ่งในจักรวาลมีที่ใช้ของมัน ถ้าจำเป็นต้องใช้ ก็ต้องใช้
ถ้าคุณคิดแต่จะประนีประนอม ห่วงแต่ภาพลักษณ์ ห่วงแต่ความเป็น “กลาง” Picture-perfect มุ่งมั่นจะเป็น “ทองคำ” ที่หลอมรวมสนิทเป็นแผ่นเดียวกันกับสิ่งอื่น ๆ ผมคิดว่าคุณน่ะไม่มีกระดูกสันหลัง
คำว่าเป็นกลาง ไม่เลือกข้าง จริง ๆ คือความขี้ขลาดอย่างยิ่งยวด เพราะคุณเห็นความสงบเรียบร้อย หรือ Status Quo สำคัญกว่าความถูกต้อง และคุณไม่กล้าพอที่จะพูดสิ่งที่ตัวเองเชื่อหรือมีจุดยืนที่ชัดเจน จึงหลอกตัวเองว่ากำลังทำสิ่งที่ถูกต้องอยู่ด้วยการไม่แสดงความเห็นอะไรเลย แม้จะเห็นอยู่โต้ง ๆ ว่าความชั่วร้ายกำลังเกิดขึ้นตรงหน้า คุณก็เลือกที่จะเงียบ เพราะคุณ “เป็นกลาง” เป็น “ผู้ใหญ่” ที่มี “วุฒิภาวะ”
(อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องออกไปลงถนน กล้าท้าชนกับทุกสิ่ง เพราะในความเป็นจริงแต่ละคนมีความพร้อมและปัจจัยในชีวิตต่างกัน พร้อมก็ไปสู้ ไม่พร้อมก็ยังก่อน แค่นั้นเอง)
ซึ่งอันที่จริงมันไม่ใช่เรื่องผิดอะไรเลยที่จะเป็นคนขี้ขลาด เพราะหมอสองก็เป็นคนขี้ขลาดขี้กลัวเป็นที่สุด แต่มันน่ารังเกียจมากถ้าคุณถือหางตัวเองแล้วยกตัวเองเป็น “คนดีย์” เพียงเพราะคุณเป็นกลาง แล้วเที่ยวชี้นิ้วตีตราคนอื่นที่กำลังพาสังคมไปสู่ยุคใหม่ที่ดีกว่าว่าเป็นพวกก้าวร้าวหัวรุนแรง เป็นพวก “ไม่น่ารัก” ไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ และไม่รู้จักกาลเทศะ
คุณจะทำตัวแบบนั้นต่อไปก็ได้ ไม่มีใครห้าม แต่แค่มันน่ารังเกียจน่ะ
หรือจริง ๆ แล้วที่ทำแบบนั้นเพราะพวกคุณกำลังกลัวใช่มั้ย? เพราะพวกเรากำลังเขย่าโลกของพวกคุณ ใช่หรือไม่?
ไม่ต้องกลัวหรอก ยุคใหม่มันมาถึงตั้งนานแล้ว และคนที่พยายามดึงไม่ให้โลกมันก้าวไปข้างหน้า สุดท้ายก็จะถูกทิ้งไว้ข้างหลังเท่านั้นเอง
ผมมองว่างานของผมกับงานของก้าวไกลมีอะไรเหมือนกันมาก คือการตั้งคำถามกับสิ่งที่เป็นมาตลอดว่ามันดีมันเหมาะสมจริงหรือ และพยายาม Call Out ความ Bullshit ของโลกเก่า
เรามักพูดว่า “คนเป็นคนเท่ากัน” แต่กลับมองคนของโลกอื่นต่างออกไป … ผู้วิเศษมักแบ่งแยกชนชั้นของสปิริต บอกว่าสปิริตกลุ่มนี้ “ดี” สปิริตกลุ่มนี้ “ไม่ดี” ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นแนวคิดของโลกเก่าที่ยังติดกับดักของ Duality-Polarity ดี-ชั่ว พระเจ้า-ปีศาจ สวรรค์-นรก แสงสว่าง-ความมืด ฯลฯ
และการมองสปิริตแบ่งเป็นฝ่ายแบบนี้ก็ลามมาถึงการตีตราผู้วิเศษที่ทำงานกับสปิริตฝ่ายที่ดู “มืด ๆ” ด้วยว่าเป็นพวกนอกรีต เป็นเสี้ยนหนามของศาสนาหลักอันดีงามที่สมควรจะถูกกำจัด
ไม่ต้องเชื่อผมก็ได้ แค่คุณไปส่องเฟซบุ๊กของผู้อาวุโสทั้งหลาย แล้วหาคำค้นเกี่ยวกับ Demonolatry / Left-Hand Path หรือ Spirit Keeping / การรับเลี้ยงเอนติตี้ แล้วคุณจะเข้าใจ
พวกเขาตั้งธงไปแล้วว่ามีเวทมนตร์หรือองค์ความรู้บางอย่างเท่านั้นที่ “ถูกต้อง” นอกนั้น “ผิด” — การทำงานกับความมืดเป็นเรื่องผิด การทำงานกับผีเป็นเรื่องน่ารังเกียจ การทำงานกับนักบุญสงวนไว้เฉพาะคนที่เป็นคาทอลิก การทำงานกับพืชมีพิษเป็นเรื่องเลวร้าย การเลี้ยงเอนติตี้เป็นเรื่องมโน เพ้อฝันไร้สาระ และการเป็นแม่มดอาชีพ การเก็บเงินจากการบริการทางเวทมนตร์เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ (เรื่องนี้เดี๋ยวมาขยายวันหลัง)
ซึ่งมันโคตร Bullshit
ในวิชาแม่มดสายเก่า เราไม่แบ่งแยก แต่เราแสวงหา Union เรามองสปิริตเป็นสปิริตเท่ากัน ในฐานะคนของโลกอื่นเหมือน ๆ กัน ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร เป็นพระเจ้า (ไม่ว่าจะของศาสนาไหน) เป็นเทพสูงสุด เป็นเทพเจ้า เป็นเทวดา ทูตสวรรค์ เป็นปีศาจ เป็นภูตพราย หรือแฟรี่ หรือเป็นคนตาย เป็นปอบ หรือเป็นสัมภเวสีตายโหง ไม่ว่าคุณจะมาจากยอดสูงสุดของสรวงสวรรค์ หรือจุดที่ลึกสุดของปรโลก หรือก้นบึ้งของนรก เรา Treat คุณเป็นสปิริตเท่ากัน เราเมตตาและให้ความรักกับคุณเท่า ๆ กัน
(อย่างไรก็ตาม นี่เป็นคนละประเด็นกับความปลอดภัยในการทำงานกับสปิริต เพราะสปิริตที่ดุร้ายมาก ๆ ก็มี แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาไม่ได้คู่ควรกับความรักของเราหรือ? ลองคิดดูดี ๆ)
เพราะโลกเราพัฒนามาไกลมากแล้ว มนุษย์ได้เรียนรู้ผ่านประวัติศาสตร์ของเผ่าพันธุ์นับหมื่นนับแสนปีนับตั้งแต่มนุษย์คนแรกยังย่างกรายบนโลก มาถึงตอนนี้เราเข้าใจแล้วว่าถ้าเราอยากจะไปต่อยาว ๆ ไม่ล่มสลายเหมือนแอตแลนติสหรืออารยธรรมโบราณอื่น ๆ เราต้องมีหมุดหมายเดียวกันคือ ทุกคนต้องเท่ากัน
การแบ่งชนชั้นวรรณะ การแบ่ง “พวกเขา-พวกเรา” การเลือกปฏิบัติ หรือการบูชาตัวบุคคลนั้นเป็นแนวคิดของโลกเก่า ซึ่งก็มีที่ใช้ในยุคสมัยของมัน แต่ยุคสมัยเหล่านั้นได้จบลงไปแล้ว The End. Past Tense. Gone. ต่อไปนี้เป็นเวลาของยุคใหม่ในโลกใบใหม่
ALL ARE EQUAL BEFORE GOD.
Are you with me?
