Day 1: We Fly At Midnight

Santiparp Peerapakorn
2 min readApr 30, 2023

--

#184DaysOfWitchcraft Day 1

***ถึงผู้อ่านที่รักทุกท่าน อ่านแล้วชอบตรงไหน-เก็บไว้ใช้ ไม่ชอบตรงไหน-ตัดทิ้งหรือเอาไปดัดแปลง แต่ถ้าอ่านแล้วไม่ชอบเลย-กดปิด ขอบคุณที่หลงเข้ามาเจอกันนะครับ ขอให้โชคดีบนทางที่ทุกท่านเลือก***

***หมอสองเขียนแบบไม่มีการวางโครงเรื่อง ไม่มีการแก้อะไรทั้งสิ้น ปล่อยให้มือทั้งสองพิมพ์ไปโดยเสรี ขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วย***

หมอสองเป็นแม่มดขี้เกียจ เพื่อน ๆ ที่ตามผมมาสักพักจะรู้ดี อะไรที่ยุ่งยาก ซับซ้อนเกินจำเป็น ผมไม่เอาเลย นิยมอะไรที่มันง่ายและได้ผลมากกว่า ชีวิตมันสั้นเกินกว่าจะเอาไปเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่องนี่ฮะ จริงมั้ย? แท่นบูชาตามเทศกาลต่าง ๆ เลยจัดออกมาเรียบง่ายแค่นี้แล

วันนี้วัน May Eve คืนนี้คือ Walpurgis Night เป็นคืนที่สำคัญมากสำหรับผม เพราะช่วงแรก ๆ ที่ก้าวเข้ามาในวิถีแม่มดสายเก่า (Traditional Craft) ผมสัญญากับ Old Ones “ผู้เฒ่า” และบรรพชนแม่มดทั้งหลายว่าผมจะบูชาพวกท่านในคืน May Eve และ All Hallows’ Eve เป็นประจำทุกปี ตรงนี้มีเหตุผลสองประการ คือ 1. เป็นการแสดงออกถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ และ 2. เป็นการรักษาหล่อเลี้ยงอำนาจแม่มดไว้ไม่ให้เสื่อมถอย ซึ่งข้อนี้สำคัญมาก

แม่มดที่เพิ่งก้าวเข้ามาในศาสตร์ (และบางครั้งแม้แต่แม่มดผู้มากประสบการณ์ด้วย) มักจะให้ความสำคัญกับการใช้อำนาจมากกว่าจะมองเรื่องการให้ได้มาซึ่งอำนาจ หรือพูดง่าย ๆ ว่า เรามักสนใจการใช้เงินมากกว่าการหาเงิน ซึ่งจะว่าไปก็เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ แต่ถ้าเราเอาแต่จะเอาอำนาจออกมาใช้โดยไม่เติมเข้าไปเลย สุดท้ายเวทมนตร์ของเราก็จะเสื่อมไป

ในคติแม่มดสายเก่า มนุษย์ไม่มีอำนาจอะไรเลย ถ้าจะมีก็มีน้อยมาก เวทมนตร์ทั้งมวลจึงขับเคลื่อนผ่านการช่วยเหลือของสปิริต แต่สิ่งที่สปิริตไม่มี และมนุษย์มี คือความสามารถในการดัดแปลง ควบคุม และสรรค์สร้างวัตถุทางกายภาพ ดังนั้นเราจึงต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน โลกทั้งสองฝั่งจึงเป็นคำตอบของกันและกันมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ เหมือนสองด้านของเหรียญ หรือเหมือนยอดไม้เบื้องบนที่เชื่อมกับรากไม้เบื้องล่าง

ดังนั้น สำหรับมนุษย์ตัวเล็ก ๆ คนนึงที่ปรารถนาอยากมีอำนาจ มีทางเดียวคือเราต้องขอกับสปิริตเท่านั้น ซึ่งเทคนิคที่ผมค้นพบว่าทำเรื่องนี้ได้ดีมากคือ Spirit Flight หรือการบินของแม่มดนี่แหละ (แต่ก็ยังมีวิธีอื่น ๆ อีกมากมายให้เราเลือกใช้ ถ้าเราไม่ถนัดบินน่ะนะ)

เนื่องในคืน Walpurgis Night หมอสองเลยอยากจะชวนทุกคนมาหัดบินกัน จะบินขึ้นหรือไม่ขึ้น จะไปถึงซับบาทมืดหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ สำคัญที่ทุกคนลองทำดู

Witches going to their Sabbath or The departure of the witches, a.k.a. The Vision of Faust, Oil on Canvas 1878 by Luis Ricardo Falero

การบินที่ง่ายที่สุด คือการนั่งฝันกลางวัน

รอจนถึงกลางดึก ปิดไฟในห้องให้หมด ปิดม่านไม่ให้แสงใด ๆ ลอดเข้ามา นั่ง (หรือนอน) ในท่าทีสบาย หายใจเข้าออกลึก ๆ นึกภาพว่าเรากำลังยืนอยู่หน้าประตูบานใหญ่ ประตูนั้นจะมีหน้าตาแบบไหนก็ขอให้อย่าไปกำหนดกะเกณฑ์อะไรมัน แต่ปล่อยให้ประตูนั้นค่อย ๆ เปิดเผยตัวเองออกมา ขอให้มันค่อย ๆ ปรากฏเป็นรูปเป็นร่างขึ้น มีรายละเอียดชัดเจนขึ้นทุกทีขณะที่เราพิจารณามัน

เมื่อประตูชัดขึ้นจนไม่สามารถจะชัดไปมากกว่านี้ได้แล้วในนิมิตของเรา ขอให้กล่าวออกมาดัง ๆ ว่า

ข้าพเจ้ามายังที่แห่งนี้ด้วยความรัก
ประตูหนาหนักที่พิทักษ์แดนพรายเอ๋ย
จงรับความรักนี้เป็นกุญแจ
และเปิดกว้างให้แก่ข้าพเจ้าเถิด
ในนามของนางผู้เป็นมารดาของเราทั้งผอง
และในนามของเขาผู้เป็นเจ้าแห่งวิญญาณทั้งปวง

นึกภาพประตูเปิดออกกว้าง เหมือนเดิม ปล่อยให้รายละเอียดของทุก ๆ สิ่งเบื้องหลังบานประตูนั้นค่อย ๆ เปิดเผยตัวออกมา แรก ๆ เราอาจจะเห็นเพียงหมอกควันที่บังให้ทุกสิ่งพร่าเลือน ซึ่งก็ไม่เป็นไร เพราะทักษะนี้ต้องอาศัยการฝึกกันตลอดชีวิต

ผ่านไปสักพักเราจะเดินมาถึงต้นไม้ใหญ่มากต้นหนึ่ง ใต้ต้นไม้นั้นมีใครบางคนรอคุณอยู่ เรายืนรออยู่สักพักให้รายละเอียดค่อย ๆ ปรากฏขึ้น ใครคนนั้นเป็นใคร? เป็นหญิง? เป็นชาย? หรือไม่ใช่ทั้งหญิงและชาย? หรือไม่ใช่มนุษย์?

ใครคนนั้นทำท่าเหมือนจะเรียกให้เราเข้าไปใกล้ ๆ เราเดินเข้าไปและกล่าวทักทายเล็กน้อย มาถึงตรงนี้เราจะเห็นว่าข้าง ๆ กายของใครคนนั้นมีหม้อเหล็กขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ภายในหม้อนั้นบรรจุของเหลวสีเขียวสดที่มีกลิ่นหอมประหลาด ใครคนนั้นทำท่าทำทางเหมือนจะให้เราทาร่างกายด้วยของเหลวนั้น

เราบางคนอาจจะเกิดความรู้สึกกลัวขึ้นมาและเผลอถอยหลังไปสองสามก้าว ใครคนนั้นแสดงสีหน้าเข้าอกเข้าใจและกวักมือเรียกเราอีกครั้ง คราวนี้ใครคนนั้นจุ่มมือลงในหม้อและทาบนร่างกายของตนเองให้ดู เหมือนจะเป็นการบอกว่ามันไม่มีอันตรายอะไร

เรายอมจำนน และแตะเอาน้ำมันปริมาณเล็กน้อยในหม้อขึ้นมาถูไปที่มือทั้งสองข้าง ความรู้สึกชาแล่นไปทั่วร่างกายของเรา เหมือนตัวเราจะเบาขึ้น กล้ามเนื้อทั้งหมดที่แข็งเกร็งกลับคลายตัวออก กลิ่นหอมแปลกของมันเหมือนจะทำให้เราเคลิ้มและตกอยู่ในภวังค์

ใครคนนั้นยืนมองดูคุณเงียบ ๆ และยิ้มให้กำลังใจ ก่อนจะหยิบไม้กวาดเก่า ๆ 1 อันยื่นให้คุณ

เรารับไม้กวาดมาอย่างงง ๆ และไม่แน่ใจว่าต้องทำอะไรต่อ แต่ทันใดนั้นตัวเราก็ลอยขึ้นจากพื้น และบินไปพร้อมกับสายลมราตรี เรามองกลับลงมาที่พื้นดิน ใครคนนั้นยังยืนอยู่ที่เดิมพร้อมกับหัวเราะร่า และโบกมือลา

มาถึงตรงนี้สังเกตความรู้สึกที่เกิดขึ้นในร่างกายของเราให้ดี เปิดทุกสัมผัสให้เต็มที่ รู้สึกถึงสายลมเย็นที่กรีดไปบนผิวหนัง รู้สึกถึงสภาวะไร้น้ำหนักของร่างกาย รู้สึกถึงความลิงโลดที่เกิดขึ้นในใจ รู้สึกถึงอิสรภาพ

เราไม่ต้องกำหนดว่าจะบินไปที่ไหน ไม้กวาดในมือจะพาเราไปเอง

ที่ขอบฟ้า เราเริ่มจะเห็นอะไรบางอย่างบินมาไกล ๆ และเมื่อเราเขม้นมอง เราก็จะเห็นว่ามันเป็นกลุ่มคนขนาดใหญ่ มีทั้งหญิงและชาย และ “อย่างอื่น” มีทั้งคน และสัตว์ และ “อย่างอื่น” บางคนขี่ไม้กวาดมา บางคนขี่แพะมา หรือบางคนก็บินมาทั้งตัวเปล่า ๆ อย่างนั้น บางคนใส่เสื้อผ้า บางคนใส่แค่ท่อนบน บางคนใส่แค่ท่อนล่าง หรือบางคนก็แก้ผ้า

พวกเขาร้องทักทายเราขณะที่พวกเขาบินผ่านไป เราได้แต่โบกมือตอบเงียบ ๆ ยังคงอัศจรรย์กับภาพตรงหน้า

ไม้กวาดในมือของเรากระตุก มันเริ่มเปลี่ยนทิศทางและบ่ายหน้าไปยังดวงจันทร์เบื้องบน สูงขึ้น สูงขึ้น อย่าพยายามบังคับมัน ปล่อยให้มันพาเราไปในที่ที่เราควรจะไป

ปล่อยให้นิมิตของเราเปิดเผยตัวออกมา ไม้กวาดของเราพาเราไปที่ไหน? สภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร? มันอาจเป็นยอดเขา? หรือใต้ทะเลลึก? หรือบนพื้นผิวดวงจันทร์? หรือในวิหารเก่าแก่? ที่นั่นมีใครรอเราอยู่บ้าง? พวกเขากำลังทำอะไรกัน?

แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม พวกเขาจะต้อนรับเรา และเชื้อเชิญให้เราร่วมวงกับพวกเขา แต่เราจะตอบรับคำเชิญนั้นเลยหรือไม่ก็เป็นสิทธิของเรา ถ้าเลือกที่จะปฏิเสธ เราก็เฝ้าสังเกตการณ์จากนอกวงก็พอ

หลังจากนั้นปล่อยให้จินตนาการของคุณโลดแล่นให้เต็มที่ ถ้าเผลอหลับไปก็ไม่เป็นไร แต่อย่าลืมจดความฝันไว้ให้ละเอียดเมื่อตื่นขึ้นมาในวันถัดไป ถ้ารู้สึกเหนื่อยขึ้นมา ขอให้กล่าวกับไม้กวาดให้ช่วยพาเรากลับไปด้วย ซึ่งมันจะพาเรากลับไปยังใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นเดิมทันที ใครคนเดิมยังคงรออยู่และรับไม้กวาดคืนไปจากเราพร้อมกับคำอวยพร

เราค่อย ๆ เดินกลับไปทางเดิม ออกประตูใหญ่ไปโดยไม่หันกลับมามอง ได้ยินแต่เสียงประตูหนาหนักนั้นค่อย ๆ ปิดตัวเองลง

ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น หายใจเข้าออกช้า ๆ ลึก ๆ

ยินดีด้วย! คุณเพิ่งกลับมาจากการบิน!

--

--

Santiparp Peerapakorn
Santiparp Peerapakorn

Written by Santiparp Peerapakorn

Hekatean/Luciferian Witch/Sorcerer-for-Hire. Cartomancer. Modern Mystic. Goddess-Worshipper.

No responses yet