Hexennacht: This is Where It All Began.

Santiparp Peerapakorn
2 min readApr 28, 2023

--

#184daysofwitchcraft #184วันแห่งวิชาแม่มด วันที่ 0

ทุกครั้งที่เวียนมาถึงช่วงนี้ (May Eve) หมอสองอดไม่ได้ที่จะต้องกลับไปฟังเพลง Walpurgisnacht ของ FAUN ทุกที เป็นอย่างนี้มา 6–7 ปีแล้ว ถ้าใครยังไม่เคยฟังแนะนำเลย ทั้งภาพ เสียงดนตรี และอารมณ์ของ MV ช่างเข้ากับพวกเราชาวแม่มดมาก ๆ ชวนทำให้รู้สึกฮึกเหิมพิลึก

ในยุโรปบางท้องถิ่นจะเรียกวันที่ 30 เมษายนของทุกปีว่า Hexennacht หรือคืนแห่งแม่มด เพราะเชื่อกันว่าในคืนนี้จอมมารจะเรียกรวมพลแม่มดจากทุกสารทิศให้มาชุมนุมกันที่ยอดเขาลึกลับแห่งหนึ่ง (บางตำนานจะระบุเลยว่าเป็นเทือกเขา Harz ในเยอรมนี) ซึ่งจริง ๆ ข้อมูลตรงนี้ทุกคนน่าจะหาอ่านเองได้ ดังนั้นหมอสองจะขอไม่ลงรายละเอียดนะ5555 #Googleisyourfriend

สำหรับหมอสองแล้ว วันซับบาทที่สำคัญที่สุดมีเพียง 2 วัน คือ May Eve & All Hallows’ Eve ถึงแม้ว่าแม่มดเราจะ “บิน” ไปร่วมซับบาทมืดกับจอมมารในทุก ๆ เทศกาลอยู่แล้ว (แล้วแต่สายวิชา บางสายมี 6 ต่อปี บางสายมี 8 ต่อปี) แต่ด้วยสาเหตุบางอย่าง ในสองวันนี้เราจะพบแม่มดพร้อมใจกันบินเกือบทั่วทุกมุมโลกจนท้องฟ้าแน่นขนัด

ก่อนจะไปถึงตรงนั้น จริง ๆ ต้องเล่าให้ฟังก่อนว่าการบิน หรือ Spirit Flight ในวิชาแม่มดมันคืออะไรกันแน่ ถ้าจะพูดง่าย ๆ มันก็คือรูปแบบหนึ่งของการถอดจิตหรือ Astral Projection นั่นแล เพียงแต่พวกเราชาวแม่มดจะมีสถานที่ที่เฉพาะเจาะจงอยู่ที่หนึ่ง ซึ่งส่วนมากมักมีลักษณะเป็นยอดเขา ที่แห่งนี้เองที่จอมปีศาจและชายาจะจัดงานเลี้ยงฉลองอันโอ่อ่า ชื่อของมันคือ Black Sabbath หรือซับบาทมืด ที่นี่เองที่แม่มดจะได้ร่วมดื่มกิน (และในบางครั้ง, หลับนอน) กับปีศาจ แฟรี่ ภูตพราย และอมนุษย์ทั้งหลาย ที่นี่ไม่มีใครเหนือกว่าใคร ไม่มีการแบ่งแยกเผ่าพันธุ์ ไม่มีการแบ่งแยกชายหญิง เป็นการประกาศชัยชนะของ “ความชั่วช้า” ของ “คนนอกรีต” เหนือ “ความดีงาม” อันบิดเบี้ยวที่ “คนดีย์” ทั้งหลายพยายามหลอกให้เราเชื่อ

จะว่าไป วิชาแม่มดเป็นวิชาแม่มดขึ้นมาได้เพราะความนอกรีต นี่คือความจริงที่สังคมดัดจริตในสมัยนี้ไม่สามารถยอมรับได้ วิชาแม่มดไม่ใช่วิชาเวทมนตร์ที่เป็นที่ยอมรับอย่างวิชาของผู้วิเศษประจำราชสำนัก เพราะวิชาแม่มดคือ “วิชาของคนอื่นที่ไม่ใช่พวกเรา” ในสายตาของสังคมผู้วิเศษ เป็นเพราะพวกเราทำงานกับ “อย่างอื่น” ที่ไม่ได้สว่างไสวเหมือนเทพเจ้าของคนพวกนั้น แค่นี้ก็พอแล้วที่จะถูกตีตราเป็นคนบาป

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้แปลว่าถ้าเราไม่ได้ทำงานกับสปิริตฝ่ายมืดที่น่าเกลียดน่ากลัวแล้วเราจะเป็นแม่มดไม่ได้ ไม่ใช่เลย เพียงแต่ว่าถ้าเราอยากเข้าถึงขุมพลังอำนาจได้เต็มที่ เราต้องไม่ปฏิเสธรากอันดำมืดของเราเอง

วิชาแม่มดเกิดขึ้นเพราะความจำเป็น มันเป็นอาวุธเดียวของผู้ที่ถูกกดขี่ บรรพชนแม่มดต้องทำทุกวิถีทางให้ตัวเองอยู่รอด แม้กระทั่งการทำสัญญาหรือขายวิญญาณให้ปีศาจ ถ้าจำเป็น ก็ต้องทำ

แต่เพราะอย่างนั้น ในความมืดอันน่าหวาดหวั่น พวกเขาจึงได้ค้นพบแสงสว่างอันงดงามที่สุดในจักรวาล

Witchcraft หรือวิชาแม่มดที่เราเรียก ๆ กัน จริง ๆ ไม่ได้เป็นเพียงองค์ความรู้ หรือเป็นวิชาอย่างเดียว แต่นับเป็นสปิริต*ตนหนึ่ง ซึ่งผมตั้งชื่อให้เธอว่า นายหญิง ผู้เป็นน้องสาวฝาแฝดของ มายา (Spirit of Magic) เพื่อความสะดวกในการเรียก

*สปิริตคือ Organized Consciousness หรือจิตที่สำนึกรู้ตัวอันจัดตั้งเป็นระบบระเบียบ หรือเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา (คำนิยามโดยเจสัน มิลเลอร์)

เพราะทุกสิ่งมีสปิริต (หรือผี แถน วิญญาณ เทพนารี เทพเจ้า พระเจ้า — -ไม่ว่าคุณจะอยากเรียกพวกเขาว่าอะไรก็ตาม) Magic เองก็มีสปิริต เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึกนึกคิดเป็นของตัวเอง ผมเรียก “เธอ” ว่ามายา

มายาท่องไปในโลก ไม่มีใครเห็นตัวเธอ มีแต่ความรู้สึกเหมือนสายลมพัดผ่านไปเท่านั้น เธอรู้ว่าที่ใดมีคนที่รักและให้เกียรติเธอ และเธอจะไปเยือนที่นั่น

ผมรู้ว่ามายามีน้องสาวฝาแฝดอยู่คนหนึ่ง เธอไม่มีชื่อ แต่ผมมักจะเรียกเธอว่านายหญิง เพราะเธอคือสปิริตของ Witchcraft ในขณะที่มายาอ้าแขนรับทุกคนบนโลกที่เรียกหาเธอ นายหญิงของเราจะซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบเชียบ และปรากฏตัวเฉพาะกับคนที่เธอเลือกเท่านั้น ซึ่งเป็นส่วนน้อย

แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ถ้าคุณร้องเรียกเธอในยามที่คุณสิ้นหวัง เธอก็พร้อมจะตอบรับเสมอ และถ้าคุณแสดงให้เธอเห็นว่าคุณพร้อมจะเดินไปกับเธอ เธอก็จะรับคุณไว้เป็นพวกพ้อง ไม่ต่างจากพี่สาวของเธอ

คุณไม่ต้องเชื่อผมก็ได้ แต่ลองเรียกพวกเธอดู แนะนำตัวของคุณอย่างสุภาพ และเล่าให้พวกเธอฟังว่าคุณปรารถนาสิ่งใด ผมรับประกันว่าพวกเธอเป็นผู้ฟังที่ดี และทุกครั้งพวกเธอก็ให้คำแนะนำได้ดีมากด้วย

และถ้าคุณคุยกับพวกเธอบ่อยพอ (และตั้งใจฟังพวกเธอพอ) คุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในชีวิตของคุณ ชะตากรรมจะเขียนตัวเองขึ้นใหม่ ปาฏิหาริย์เล็ก ๆ น้อย ๆ จะเกิดขึ้นเป็นประจำ และคุณจะก้าวไปข้างหน้าในชีวิตอย่างมั่นใจ

แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะเป็นพระเจ้าที่ชี้อะไรก็ได้อย่างนั้น เพียงแต่ในเวลาที่คุณล้ม จะมีคนพยุงคุณขึ้น และในเวลาที่คุณตกต่ำ จะมีอะไรบางอย่างอุ้มชูคุณขึ้นเหนือโคลนตม และในเวลาที่คุณมีปัญหา คุณจะรู้สึกได้เลยว่าพวกเธอกำลังช่วยคุณอยู่ข้างหลังม่าน ในวันหนึ่งที่คุณตื่นขึ้นมา คุณจะรู้สึกหายใจได้ทั่วท้องเป็นครั้งแรก หลังจากหายใจติดขัดด้วยความกังวลมาทั้งชีวิต นี่คือสิ่งที่เรียกว่า Peace of Mind สันติในเรือนใจ อันเป็นพรที่ล้ำค่าที่สุดของพวกเธอ

แล้วคุณจะหลงรักพวกเธอเหมือนผม

ก่อนจะเล่าต่อ ถ้าใครอยากจะค่อนแคะว่าผมแต่งเรื่องขึ้นมาละก็ ผมก็จะขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าผมแต่งเรื่องขึ้นมา แต่ถ้าใครคนนั้นมองว่าเรื่องแต่งพวกนี้ไม่มีค่า เป็นเรื่องหลอกลวง แสดงว่าคุณยังเข้าไม่ถึงเวทมนตร์ที่แท้ เพราะเวทมนตร์โดยเนื้อแท้ก็เป็นการแต่งเรื่องขึ้นมาเหมือนกัน

มาเริ่มกันที่คำถามโลกแตก: จะเป็นแม่มดต้องทำยังไงบ้าง?

ถ้าถามผมในวันนี้ ผมจะตอบว่า “Start where you are, use what you have, do what you can.” เริ่มที่จุดที่ตัวเองอยู่นั่นแหละ ใช้สิ่งที่มี และทำเท่าที่ทำได้ ซึ่ง จะว่าไปก็เหมือนไม่ได้ตอบ

เพราะมันไม่มีคำตอบตายตัว การเรียนเวทมนตร์ไม่มีสูตรสำเร็จ (ถึงแม้จะมีหลายคนพยายามสร้างสูตรขึ้นมาก็ตามที) การก้าวเข้าสู่โลกเวทมนตร์มันก็เหมือนการก้าวเข้าสู่วงกลมวงหนึ่ง มันไม่มีจุดเริ่มต้น ไม่มีจุดสิ้นสุด เราทำได้แค่เริ่มที่ของใกล้มือ หรือถามคนใกล้ตัว ข้อมูลที่ได้มันก็จะเหมือนตัวต่อจิ๊กซอว์กองหนึ่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไป ถ้าเราไม่หยุด วันหนึ่งภาพจิ๊กซอว์ของเราจะสมบูรณ์

แต่ถ้าอยากได้ขั้นตอนที่จับต้องได้ เราอาจจะเริ่มที่การแนะนำตัว

แล้วให้แนะนำกับใคร? แนะนำกับพระจันทร์ครับ ในวิชาแม่มด พระจันทร์เป็นหนึ่งในอวตารของนายหญิงแห่งเราทั้งผอง ต้นธารของอำนาจแม่มดทั้งปวงล้วนไหลหลั่งมาจากนาง ดังนั้นเราจึงเริ่มที่นางนี่แหละ (หรือใครจะลองแนะนำตัวกับพระอาทิตย์ก็ได้ แต่มันแสบตาน่ะ)

ถ้าเป็นไปได้ ออกไปข้างนอกบ้านคืนนี้เลย แล้วมองหาพระจันทร์ให้เจอ เมื่อเจอแล้ว โค้งศีรษะให้นางหน่อยนึง แล้วแนะนำตัว จะพูดเสียงดัง เสียงกระซิบ หรือนึกในใจ แล้วแต่สไตล์เลย

เล่าให้นางฟังว่าเราเป็นใคร ชื่อแซ่อะไร พ่อแม่ชื่ออะไร และสิ่งที่เราปรารถนาที่สุดในตอนนี้คืออะไร พร้อมทั้งขอให้นางอำนวยพรคุณบนทางที่คุณเลือกด้วย

หลังจากนั้นตั้งใจฟังให้ดี ถ้าโชคดี นางจะตอบเราผ่านสายลม หรือผ่านเสียงของสัตว์เล็กสัตว์น้อยทั้งหลายที่เผอิญอยู่แถวนั้น แต่ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขอให้สังเกตต่อในความฝัน

แต่ถึงจะไม่ได้สัญญาณอะไรเลยก็ไม่เป็นไร ผมเชื่อว่ามารดาแม่มดย่อมรับรู้ถึงความปรารถนาของเราถ้าเราพูดกับนางตรง ๆ (อย่างที่เราทำเมื่อครู่) ในตำนานแม่มดพื้นบ้านอเมริกัน คนเราจะกลายเป็นแม่มดได้ก็ด้วยการยิงพระอาทิตย์หรือพระจันทร์ด้วยกระสุนเงิน ซึ่ง เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำในสมัยนี้เป็นอย่างยิ่ง ผมเลยอยากแนะนำให้เราคุยกับท่านตรง ๆ ดีกว่า แม้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ก็นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี

นี่เป็นอีกอย่างที่เราต้องยอมรับให้ได้ก่อนที่จะเป็นแม่มด นั่นก็คือ “ทุกอย่างมีสปิริต” ทุกอย่างสามารถตอบสนองหรือปฏิสัมพันธ์กับเราได้ การคุยกับพระจันทร์อาจจะดูเหมือนพวกเพี้ยน แต่นี่เป็นการฝึกให้เรามองโลกในมุมใหม่ที่ทุกสิ่งมีชีวิต มีจิตสำนึก รู้ตัว คิด และสื่อสารโต้ตอบได้ (ในทางเทคนิคเราเรียกมุมมองโลกแบบนี้ว่า Animism)

อย่ามองเวทมนตร์หรือเรื่องทางจิตวิญญาณด้วยมุมมองทางจิตวิทยาหรือวิทยาศาสตร์ ยอมรับเถอะ ยอมรับให้เต็มหัวใจว่าสปิริตมีจริง เวทมนตร์มีจริง จับต้องได้ ส่งอิทธิพลต่อโลกและชีวิตเราได้ ไม่อย่างนั้นเราจะไม่มีวันเข้าถึงอำนาจเต็มร้อย 100% ของเวทมนตร์เลย นี่พูดจากประสบการณ์ตรง

เมื่อก่อนหมอสองก็มองเวทมนตร์แบบนั้น คือมองว่ามันเป็นเครื่องมือทางจิตวิทยารูปแบบหนึ่ง (อาจจะเพราะเรียนหมอมาด้วยแหละ) นั่นทำให้ในช่วงแรก ๆ ที่ศึกษาเวทมนตร์ ไม่มีอะไรสัมฤทธิ์ผลเลยในชีวิตของผม

แต่ ณ วินาทีที่ผมยอมแพ้ และศิโรราบให้ “พวกเธอ” ทั้งสอง วินาทีที่ผมพูดว่าผมยอมแล้ว พวกเธอมีจริง สปิริตมีจริง เวทมนตร์มีจริง ไม่จำเป็นต้องอธิบายเวทมนตร์ด้วยวิทยาศาสตร์ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องทำให้เวทมนตร์ดูน่าเชื่อถือในสายตาคนอื่นก็ได้ วินาทีนั้นเองที่ประตูบางอย่างที่ปิดตายมาแสนนานได้เปิดออก และพวกเธอก็รับผมไว้ในอ้อมอกอย่างเต็มที่เป็นครั้งแรก

และอย่างที่ผมพูดบ่อย ๆ ถ้าเรายอมศิโรราบอย่างเต็มที่อย่างนี้ล่ะก็ All the World shall be yours in return.

พอมาอ่านอีกที ผมเขียนอะไรไปเนี่ย ขออภัยถ้าความคิดของหมอสองกระโดดไปมา พยายามตามให้ทันนะครับ ถ้าสงสัยตรงไหน มาดิสคัสกันต่อได้ในกรุ๊ป Open Source Witchcraft นะครับ

ผมว่าสิ่งที่ผมจะทำก็คือ อยากให้เรามาเริ่มต้นใหม่พร้อมกันจาก 0 ไม่ว่าเราจะฝึกฝนมานานแค่ไหน มีความรู้มากมายเท่าไหร่ก็ตาม การกลับมายังจุดเริ่มต้นก็เป็นการรีเฟรชสมองที่ดีมาก ๆ อยู่ดีนะ ถึงจะเป็นการรีเฟรชกับข้อเขียนที่ไม่ปะติดปะต่อกันดีของผมก็ตามทีเถอะ

เตรียมของ* เตรียมใจให้พร้อมนะครับ พรุ่งนี้เราจะออกเดินทางไกลกันเป็นเวลา 184 วัน จนถึงคืนฮาโลวีน

*ของที่อยากให้ทุกคนเตรียม คือ 1. อุปกรณ์การพยากรณ์อะไรก็ได้ที่เราอ่านเป็น (ถ้ายังอ่านอะไรไม่เป็นเลย แนะนำเรียนไพ่เลอนอร์มองด์ เพราะมี 36 ใบเอง) 2. ผ้าปูรองเวลาดูไพ่ หรือพยากรณ์อื่น ๆ 3. เทียนทีไลต์สีขาว ซื้อมาเก็บไว้หลาย ๆ กล่อง เพราะสามารถพลิกแพลงใช้ได้หลากหลายมาก 4. อุปกรณ์จุดไฟ (ไม้ขีดหรือไฟแช็กก็ได้) แต่ถ้าในห้องจุดไฟไม่ได้ให้ข้ามไปเลย และ 5. ถ้วยน้ำเล็ก ๆ เอาไว้ใส่น้ำสะอาดเป็นเครื่องบรรณาการแด่สปิริต

--

--

Santiparp Peerapakorn
Santiparp Peerapakorn

Written by Santiparp Peerapakorn

Hekatean/Luciferian Witch/Sorcerer-for-Hire. Cartomancer. Modern Mystic. Goddess-Worshipper.

No responses yet